ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เผยบุคลิก หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ซิ่งชนไรเดอร์ดับ มีอารมณ์ค่อนข้างร้ายและรุนแรง เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตำรวจคัดค้านการประกันตัว
จากกรณี นายเสรี อายุ 30 ปี ลูกชายร้านขายผ้าชื่อดังย่านสุขุมวิท ขับรถเก๋งไล่ชนมอเตอร์ไซค์ไรเดอร์จนเสียชีวิต บริเวณปากซอยสุขุมวิท 10 เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาหนัก หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และฝากขังผู้ต้องหาใน ซึ่งพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าจะหลบหนี
โดยล่าสุด 22ม.ค.68 บรรยากาศที่ สน.ลุมพินี เช้านี้ มีพ่อและญาติ 7 คน ของนายเสรี อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา เดินทางมาเยี่ยมลูกชาย โดยทั้งหมดปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์และให้ข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อของนายเสรี ที่ยกมือไหว้ร้องขอว่าอย่ามายุ่งกับครอบครัว ก่อนที่ทั้งหมดได้เข้าไปหลบสื่อมวลชนภายในห้องพนักงานสอบสวน
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้นำรถเก๋งคันดังกล่าวและจักรยานยนต์ไฟฟ้าของผู้เสียชีวิตนำมาให้เจ้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานภายในด้านหลังของ สน. ลุมพินี
พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าคดีแขกขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิตที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 10 ว่า ในส่วนของผู้ต้องหา ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น
ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ให้การใดๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน อ้างว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนจะส่งฝากขังนายเสรีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง
สำหรับพฤติการณ์ทางคดีเบื้องต้นนั้น จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งสองฝ่ายได้ขับรถไล่กันมาก่อนตั้งแต่แยกอโศกมนตรี ก่อนที่ทั้งคู่จะมาจอดทะเลาะวิวาทกันบริเวณปากซอยสุขุมวิท 10 ตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด โดยผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดขวางรถของผู้ต้องหาแล้วมีปากเสียงกัน
หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ขับรถเฉี่ยวรถของผู้เสียชีวิตก่อน ทางผู้เสียชีวิตจึงได้ทุบกระจกรถของผู้ต้องหา ทำให้ผู้ต้องหาลงมาจากรถแล้วทุบทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตกับถีบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ทำให้ผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์หนีออกมา ทว่าผู้ต้องหาได้ขับรถตาม ก่อนจะไปขับเฉี่ยวชนรถของผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ในประเด็นที่ว่าผู้เสียชีวิตได้ยกมือไหว้ขอโทษผู้ต้องหานั้น ยังไม่มีการสอบรายละเอียดในประเด็นนี้ เพราะผู้ต้องหาไม่ให้การใด ๆ เพียงแต่จากการสอบสวน ตัวผู้เสียชีวิตเองนั้นก็พยายามออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว ผู้ก่อเหตุก็ยังขับรถติดตาม
สำหรับลักษณะบุคลิกของผู้ต้องหานั้น จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหามีอารมณ์ค่อนข้างร้ายและรุนแรง รวมทั้งยังมีท่าทีนิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จากการตรวจสอบ ไม่พบประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตและตรวจไม่พบสารเสพติดกับปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายแต่อย่างใด
ในส่วนของครอบครัวผู้ก่อเหตุนั้น เมื่อวานนี้ได้พูดคุยกับภรรยาผู้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้อาจจะมีการพูดคุยในเรื่องของการช่วยเหลือเยียวยา อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจให้คำมั่นว่า จะดำเนินคดีทางอาญาอย่างเต็มที่กับผู้ต้องหา ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้
พร้อมให้ความเป็นธรรม กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนเรื่องของการช่วยเหลือเยียวยาเป็นคนละส่วนกัน แต่ทางตำรวจยอมรับว่าวิตกกังวลในเรื่องของการใช้ชีวิตของครอบครัวผู้เสียชีวิตหลังจากนี้ที่ต้องสูญเสียกำลังหลักของครอบครัว
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสน. ลุมพินีได้ควบคุมตัวนายเสรี ส่งฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยคัดค้านการประกันตัว เพราะมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าจะหลบหนี