กัน จอมพลัง ตอกกลับ พรีม รุ่นพี่สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง หลังร่ำไห้ไม่อยากติดคุก ขอจบเรื่อง และขอโอกาสจากสังคม
จากกรณีเหตุการณ์รุ่นพี่ LGBTQ+ สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง ข่มขู่เรียกเงินกว่า 50,000 บาท และบังคับให้ถอนวิชาเรียนออกทั้งหมด ซึ่งได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม จนนำไปสู่การรวมตัวของประชาชนหลายร้อยคนที่ปิดล้อมคอนโดของผู้ก่อเหตุ เพื่อกดดันให้รับผิดชอบต่อการกระทำและเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยดำเนินมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของสถาบันและเป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายพรีม อายุ 22 ปี และ นายโอชิ อายุ 19 ปี รุ่นพี่สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่น” และจะขยายผลเอาผิดให้หมดทุกราย
ซึ่งในการสอบปากคำเมื่อวานนี้ กัน จอมพลัง ได้เดินทางมาที่สภ.คลองหลวงและได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ซึ่งทั้ง 2 คนเปิดใจบอกว่าสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไปและอยากขอโอกาสจากสังคม รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปมากๆ พร้อมร้องไห้ออกมาว่าไม่อยากติดคุก อยากให้จบเรื่องได้ไหม ซึ่งทางกัน จอมพลัง ได้ตอบกลับชัดเจนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
พรีม ปล่อยโฮพร้อมเปิดใจว่า
“หนูเห็นแผลน้องแล้ว ถ้าพอช่วยจ่ายค่ารักษาก็พร้อมจะช่วย ไม่รู้ว่าจะไปเรียนได้อยู่ไหม หนูสำนึกผิด จะเป็นไปได้ไหมถ้าเขาถอน ไม่เอาเรื่อง หนูรู้สึกว่ามันแรงจริงๆ หนูไม่อยากจะติดคุก หนูสำนึกผิดจริงๆ ถ้าเลือกกลับไปได้จะไม่ทำและจะไม่ทำใครอีก ไม่รู้ว่าจะดูน่าเกลียดไปไหม อยากให้จบวันนี้ อยากให้เรื่องคดีความจบได้ไหม พร้อมขอโทษน้อง ขอโทษโซเชียล เพื่อให้น้องโอชิ ไม่โดนไปด้วย ถ้าย้อนกลับได้หนูคนจะไม่ทำ ถ้าพี่ไม่เชื่อ พี่กันอ่านแชทที่หนูคุยกับเพื่อนได้เลยว่าหนูรู้สึกผิด มีคนมาถามหนูถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หนูไม่รู้สึกภูมิใจที่เราเอาน้ำไปราดคน ถ้าขอโทษตอนนี้คนจะเชื่อหนูไหม”
ด้าน กัน จอมพลัง ได้ยืนยันชัดเจนว่า “ไม่ให้โอกาส เรื่องนี้ กัน จอมพลัง เคลียร์ไม่ได้”
“สุดท้ายก็ต่างคนต่างเอาตัวเองรอดถึงขนาดร้องไห้บอกไม่อยากติดคุกขอจบวันนี้ได้ไหมขอโอกาส ผมพูดตรงๆคือให้ไม่ได้ เคสกันจอมพลังเคลียร์ไม่ได้ส่วนคำขอโทษนั้นทุกคนลองตัดสินใจดูว่าทุกคนเห็นความจริงใจในนั้นไหม”
ทางด้านมหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 สั่งลงโทษสูงสุดกับผู้ก่อเหตุ ให้พ้นสภาพนักศึกษาและคัดชื่อออกจากทะเบียน มีผลวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ทันที ระบุ
แถลงการณ์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ฉบับที่ 2
เรื่อง ผลการพิจารณาโทษทางวินัยนักศึกษา กรณีการทำร้ายร่างกาย
ตามที่คณะกรรมการปกครองได้ประชุมพิจารณาบทลงโทษตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ว่าด้วยวินัยนักศึกษา โดยได้พิจารณาพยานหลักฐาน มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าผู้ก่อเหตุที่กระทำการราดน้ำร้อนเข้าข่ายความผิดและเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ เสรีภาพ และเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย
อาศัยอำนาจตามความในข้อบังคับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะกรรมการปกครองจึงพิจารณาโทษสูงสุดเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่น มีคำสั่งให้นักศึกษาผู้กระทำความผิดพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาและจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป
อนึ่ง สำหรับผู้กระทำผิดรายอื่น คณะกรรมการปกครองของมหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการพิจารณาโทษวินัยตามระเบียบและข้อบังคับฯ มหาวิทยาลัยขอยืนยันจุดยืนในการไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ และจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่ละเมิดกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและความเป็นธรรม